ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและมีความท้ายอยู่เสมอ ชีวิตที่เราต้องการและใฝ่ฝันถึงอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้ว มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ค้นพบเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้เราจัดการความคิดและออกแบบชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่การวางแผนเท่านั้น แต่เป็นการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันของเราเอง มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับ 5 ขั้นตอนที่สามารถช่วยให้เราออกแบบชีวิตของตัวเองได้จากแนวคิดของมหาวิทยาลัยชั้นนำนี้กันเลย

ขั้นตอนที่ 1 สร้างความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity)

การเริ่มต้นออกแบบชีวิตที่ต้องการต้องเริ่มจากสำรวจและค้นหาสิ่งที่เราสนใจ ความอยากรู้อยากเห็นจะช่วยให้เราค้นพบตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความชอบ หรือแม้แต่ความฝันที่เคยถูกลืม ลองเปิดใจให้กว้าง และอย่ารีบร้อนตัดสินว่าความคิดใดเป็นไปไม่ได้ วิธีนี้จะทำให้เรามีได้เรียนรู้ที่จะทดลองและค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในชีวิตของเราเอง

วิธีการสำรวจตัวเอง

ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่างานที่ทำอยู่คืออะไร? และถ้าไม่มีข้อจำกัดใดๆ สิ่งที่อยากทำจริงๆ คืออะไร? การตั้งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของชีวิตในมุมมองใหม่ และช่วยให้เราเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ

ขั้นตอนที่ 2 ลองทำโดยไม่กลัวพลาด (Try Stuff)

เมื่อค้นพบสิ่งที่อยากทำ ขั้นตอนต่อมาคือการลงมือทำ การลองทำเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสประสบการณ์จริง ซึ่งบางครั้งอาจพบว่าความคิดที่เราคิดว่าน่าสนใจไม่ใช่อย่างที่คิด แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากประสบการณ์นั้นๆ และไม่กลัวความล้มเหลว

วิธีการลงมือทำ

ลองเข้าไปพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ตรงในสิ่งที่เราสนใจ หรือสมัครทำงานพาร์ทไทม์เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง การทำแบบนี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าสิ่งที่คิดกับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกันอย่างไร และทำให้ได้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือไม่ ช่วยให้ตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 3 ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด (Reframing)

ความคิดเป็นส่วนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ คิด และวิเคราะห์สิ่งต่างๆ แต่ความคิดอีกเช่นกันที่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตได้ บางครั้งก็เป็นเพราะวิธีคิดและทัศนคติของเราเองที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า ลองปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ดูบ้าง จะเป็นการช่วยให้หลุดพ้นจากกรอบความคิดเดิมๆ และเปิดโอกาสให้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้ทำงาน

เทคนิคการปรับเปลี่ยนมุมมอง

ลองใช้การวาดมายด์แมพ (Mind Map) เพื่อระดมความคิดและเชื่อมโยงสิ่งที่อยากทำกับสิ่งที่มีอยู่แล้วในชีวิต วิธีนี้จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของความเป็นไปได้และโอกาสใหม่ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม

ขั้นตอนที่ 4 ยอมรับว่าชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จ (Know It’s a Process)

การเดินทางของชีวิตไม่ได้เป็นเส้นตรงที่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นกระบวนการที่เราต้องเรียนรู้และเติบโตตลอดเวลา เราควรมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวและไม่ยึดติดกับแผนเดียวอยู่เสมอ เพราะจะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง สามารถสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับตัวเองได้ ลดความกดดันตัวเองเมื่อเผชิญความผิดพลาด สามารถรับมือกับปัญหาที่เหนือความคาดหมายได้อย่างเหมาะสม

วิธีการยอมรับกระบวนการชีวิต

เราควรมุ่งความสนใจไปที่การเรียนรู้จากสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวัน และมองหาปัญหาที่ต้องการแก้ไข มากกว่าการหาทางออกที่สมบูรณ์แบบในทันที อย่าเอาแต่จดจ่อแต่ปัญหา แต่ต้องเน้นไปที่การหาทางแก้ ซ฿่งจะช่วยให้เราเห็นภาพสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น

ขั้นตอนที่ 5 ขอความช่วยเหลือ (Ask for Help)

การออกแบบชีวิตไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้ามีคนสนับสนุนหรือทีมที่คอยให้คำปรึกษาจะช่วยให้เราก้าวผ่านความยากลำบากได้ง่ายขึ้น อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน ครูอาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ

การสร้างเครือข่ายสนับสนุน

ลองแบ่งปันเป้าหมายชีวิตกับคนใกล้ชิด และขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือดูบ้าง การทำเช่นนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เรารู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างๆ แต่ยังช่วยให้ได้รับมุมมองและความคิดใหม่ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ในการออกแบบชีวิตของเราเอง

การออกแบบชีวิตไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยการคิดและการลงมือทำในรูปแบบที่เป็นระบบ การทำตามขั้นตอนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแนะนำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถสร้างชีวิตที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง ความสำคัญอยู่ที่การเริ่มต้นจากความอยากรู้อยากเห็น ลองทำ ปรับเปลี่ยนมุมมอง ยอมรับกระบวนการ และไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้ เราก็จะสามารถออกแบบชีวิตที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้อย่างแท้จริง

คำถามที่พบบ่อย

ได้ เทคนิคการคิดเชิงออกแบบสามารถใช้ในการวางแผนและตัดสินใจในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ควรเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับงานหรือกิจกรรมที่ทำอยู่ และลองหาคำตอบว่าสิ่งไหนที่ทำให้เรารู้สึกสนุกและมีความสุข

การขอความช่วยเหลือช่วยให้เราได้รับมุมมองและคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ ซึ่งสามารถช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคและสร้างเส้นทางชีวิตใหม่ได้

การเปลี่ยนมุมมองอาจดูยากในตอนแรก แต่เป็นเรื่องที่สามารถฝึกฝนได้ และจะช่วยให้เรามีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ

การลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยไม่กลัวพลาดจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้ยังไง?